Pickup and SUV caravan drive on dirt road with BFG KO3 A/T Tyres

ยาง BFGoodrich KO3 ดีไหม ต่างอย่างไรกับยาง A/T KO2 รุ่นตำนานของชาวออฟโรด?

สายลุยที่ชื่นชอบในการขับรถโฟวิล ไม่ว่าจะเป็นกระบะ 4x4 หรือเอสยูวีที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD ทุกคนต้องรู้จักหรือเคยใช้ยาง BFGOODRICH ALL TERRAIN T/A KO2 สุดยอดยาง A/T ในตำนานที่ครองใจชาวออฟโรดทั่วโลกรวมถึงในไทยมาเป็นเวลานาน วันนี้เทคโนโลยีที่สั่งสมมาจากอดีตได้ถ่ายทอดสู่ยาง A/T รุ่นล่าสุด อย่าง BFGOODRICH ALL TERRAIN T/A KO3 ผู้สืบทอดบัลลังก์แชมป์ของยางสายลุยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 
 
หลายคนคงกำลังสงสัยว่ายาง KO3 นั้นมีความแตกต่าง ตลอดจนเรื่องใดบ้างที่ได้รับการพัฒนาจากยาง KO2 ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมาเป็นเวลามากกว่า 10 ปี โดยเราจะพาผู้ที่ชื่นชอบการลุยป่า ลุยโคลน หรือเส้นทางสมบุกสมบันในป่าหรือที่แห่งใดก็ตาม ไปทำความเข้าใจให้มากขึ้นผ่านทางบทความนี้เอง

Toyota Hilux Vigo white color drive on road with BFGoodrich KO3 A/T Tyres


3 สถิติของยาง A/T ในตลาดที่แฟนกระบะและเอสยูวี 4WD ไม่เคยรู้มาก่อน

ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของกลุ่มคนผู้รักในการลุยและใช้รถกระบะหรือเอสยูวีออฟโรด 4x4 คือปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนายาง A/T หรือที่คนไทยเรียกว่ายางออลเทอร์เรน วันนี้เราจะพาคุณไปดูถึงสามสถิติเกี่ยวกับยาง A/T เพื่อการขับขี่ปกติและทางลุยที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อ

ข้อที่ 1: เราใช้รถกันนานขึ้นกว่าเมื่อ 20 ปีที่แล้ว

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 2000 ตอนนั้นถึงว่าได้เป็นยุคทองของรถกระบะและเอสยูวีที่มีเปิดตัวกันเป็นจำนวนมากในตลาดอเมริกาเหนือ ในช่วงนั้นผู้คนใช้รถออฟโรดเฉลี่ยอยู่ที่ 8.4 ปี จนค่อยตัดสินใจเปลี่ยนรถใหม่ 
 
แต่มาวันนี้ในปี 2024 อายุการใช้งานเฉลี่ยกระโดดขึ้นมาอยู่ที่ 12.5 ปี นั่นทำให้เจ้าของรถเริ่มมองหาความคุ้มค่าในการใช้งานรถคันเก่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งยาง A/T ที่เปรียบเหมือนกับหนึ่งในหัวใจหลักของการลุย ได้กลายเป็นสิ่งที่ช่วยให้รถถ่ายทอดสมรรถนะเพื่อนำไปสู่จุดหมายปลายทางต่างๆ ได้อย่างสะดวก ง่ายดาย และปลอดภัยมากกว่าเดิม

ข้อที่ 2: 84% ของยาง A/T มีปัญหาแก้มยางฉีกขาด

แม้ว่ายาง A/T (All-Terrain) จะลักษณะเด่นคือเป็นยางที่มีความแข็งแกร่ง เหมาะสำหรับการลุยเข้าไปในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยโคลน ทราย หรือก้อนหินขนาดใหญ่ แต่คุณทราบไหมว่าปัญหาของยาง A/T กว่า 84% ในตลาด คือแก้มยางฉีกขาด รั่ว หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับแก้มยาง ทั้งที่แก้มยางควรจะแข็งแกร่งและสามารถป้องกันไม่ให้เกิดการบาด แตก หรือรั่วซึมระหว่างการลุย

ข้อที่ 3: ผู้ใช้ต้องการยาง A/T ที่ลุยไปได้ทุกที่ (จริงๆ)

จริงอยู่ที่ชื่อของยาง A/T ก็คือออลเทอร์เรนที่สามารถพาคุณและรถโฟวิลคู่ใจลุยไปได้ทุกที่ แต่ความจริงแล้วยาง A/T หลายยี่ห้อในตลาดไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนัก ทั้งๆ ที่ผู้ใช้ต้องการยาง all-terrain ที่วิ่งได้ดีบนถนนปกติ เช่น ทางแห้งก็ต้องมั่นใจ เมื่อฝนตกก็ต้องไม่ลื่น เบรกได้อยู่ และเสียงต้องไม่ดังมาก  
 
ในขณะที่เมื่อต้องพารถ 4WD คันโปรดลุยออฟโรดเข้าป่า ก็ต้องตะกุยและสลัดดินโคลนที่อ่อนนุ่มให้ออกจากดอกยางได้ดี หรือปีนก้อนหินได้มั่นใจโดยไม่กลัวว่าแก้มยางจะเสียหาย และต้องลุยไปบนเนินทรายได้แบบเต็มที่ เหล่านี้ล้วนเป็นความต้องการที่ชาวออฟโรดอยากได้จากยาง A/T ที่พวกเขาเลือกใช้นั่นเอง

BFGoodrich KO3 All-terrain Tyres with Ford Ranger


ทำไมยาง A/T อย่าง BFGOODRICH ALL TERRAIN T/A KO3 คือคำตอบของสายออฟโรดตัวจริง?

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้วงการออฟโรดได้ขยายใหญ่ขึ้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงคนกลุ่มเล็กๆ อีกต่อไป นั่นจึงทำให้เจ้าของรถ 4WD ทั้งกระบะและเอสยูวี 4x4 มองหายาง A/T สุดแกร่งที่ลุยโคลน ปีนเนินทราย เข้าไปในป่าใหญ่เพื่อปีนก้อนหินสูงชัน แน่นอนว่ายาง BFGOODRICH ALL TERRAIN T/A KO2 คือหนึ่งในสุดยอดยาง A/T ที่พวกเขามีอยู่ในใจเช่นกัน
 
ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ยาง BFGOODRICH ALL TERRAIN T/A KO2 ได้ทำตลาดมา เราก็เริ่มทำการเก็บข้อมูลพร้อมรับฟังคำติชมจากบรรดาลูกค้าผู้มีหัวใจรักในการลุยทุกคน เพื่อนำเสียงตอบรับเหล่านั้นมาพัฒนายางรุ่นใหม่ที่จะต่อยอดความสำเร็จและส่งมอบยาง A/T ที่ดีที่สุดต่อจาก KO2 ให้กับลูกค้า 
 
หากคุณคือคนเหล่านั้นที่เรากล่าวมา ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่คุณจะได้รู้อย่างแน่ชัดแล้วว่าทำไมยาง A/T อย่าง BFGOODRICH ALL TERRAIN T/A KO3 ที่พัฒนามาจากสุดยอดยาง A/T อย่าง KO2 คือยางที่ดีทั้งสำหรับการขับขี่ถนนปกติและลุยทางออฟโรดได้เต็มประสิทธิภาพอย่างแท้จริง

  • KO3 ใช้งานได้ยาวนานกว่าถึง 15% 
  • KO3 ทนทานต่อการบาดมากกว่า 20% 
  • KO3 ขับได้ดีกว่าบนทางลื่นหรือเปียก 
  • KO3 มีระยะเบรกบนทางเปียกสั้นลงถึง 4.2 เมตร 
  • KO3 เสริมภาพลักษณ์ให้รถออฟโรดดูเท่และแกร่งกว่าที่เคย


ถ้าสิ่งที่ว่ามานี้ยังไม่ทำให้คุณเห็นภาพว่ายาง KO3 นั้นจะกลายเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากยาง KO2 หนึ่งในยาง A/T ที่ดีที่สุดของโลกในเวลานี้ได้อย่างไร เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจให้มากขึ้นเอง

KO3 มาพร้อมดอกยางที่ใช้ได้ดีทุกสถานการณ์

เริ่มกันด้วยจุดเด่นอย่างแรกของยาง BFGOODRICH ALL TERRAIN T/A KO3 ในประเด็นดอกยางที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากยาง KO2 พร้อมเสริมของดีที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีกขั้น

  • เนื้อยางสูตรใหม่
    เนื้อยางสูตรพิเศษของ BFGOODRICH ALL TERRAIN T/A KO3 ช่วยให้คุณลุยทางออฟโรด ไม่ว่าจะเป็นทางดินอ่อนนุ่ม เนินทราย ปีนหินสูง หรือลุยทางน้ำ ไปจนถึงการขับบนถนนปกติทั้งเปียกและแห้ง ไม่เพียงเท่านี้ ยาง KO3 ยังใช้งานได้ยาวนานขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
  • ลายดอกยางแบบใหม่
    เพื่อสมรรถนะในการลุยทางออฟโรดที่ดีกว่า ยาง A/T อย่าง KO3 จึงได้รับการออกแบบลายดอกยางใหม่ ที่ให้ความมั่นคงทั้งในถนนปกติและเส้นทางออฟโรด ควบคู่กับการยึดเกาะและตะกุยสภาพพื้นผิวที่แตกต่างกันได้เป็นอย่างดี
  • หน้าสัมผัสและร่องบากดอกยางแบบ 3 มิติ
    หมดปัญหาเรื่องยากสึกไม่เท่ากัน ด้วยหน้าสัมผัสของดอกยางที่มีประสิทธิภาพสูงและร่องบาก 3 มิติเต็มความหนาหน้ายางที่ล็อกกันไว้ ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ยางสึกสม่ำเสมอเมื่อใช้งานขับขี่ระยะไกล

 

Chevrolet Colorado pickup truck climb sand dune with BFG KO3 A/T Tyres


KO3 มาพร้อมโครงสร้างยางที่ทนทานขึ้นไปอีกระดับ

BFGOODRICH ALL TERRAIN T/A KO3 ได้รับการพัฒนาโครงสร้างยางทั้งหมดขึ้นมาให้ดีขึ้นทุกมิติต่อจากยาง KO2 ที่ยอดเยี่ยมและสร้างชื่อเสียงครองใจสายออฟโรดมาเป็นเวลาหลายสิบปี ด้วยข้อดีดังนี้

  • ไหล่ยางและแก้มยาง แกร่งทนลุยได้ทุกเส้นทาง
    ยาง BFGOODRICH ALL TERRAIN T/A KO3 ใส่เทคโนโลยี CoreGard ที่พัฒนาขึ้นสำหรับรายการแข่งรถออฟโรดสุดหฤโหด ‘บาฮา’ (Baja) ทำให้แก้มยางมีความทนทานและแข็งแกร่งเป็นเยี่ยม ไม่เพียงเท่านี้ ไหล่ยางที่ออกแบบเป็นพิเศษยังสามารถช่วยเบี่ยงหลบกิ่งไม้และคมหินเพื่อป้องกันแก้มยางปริหรือฉีกขาดจากการถูกทิ่มตำได้อีกด้วย

 

KO3 มาพร้อมความสามารถในการเกาะตะกุยทุกรูปแบบ

ตอกย้ำความเป็นที่สุดแห่งยาง A/T ในยุคนี้ของยาง BFGOODRICH ALL TERRAIN T/A KO3 ที่โดดเด่นและโดนใจสายลุยที่ชอบนำเอสยูวี 4WD และกระบะโฟวิลคู่ใจเข้าไปในป่าหรือเส้นทางที่สมบุกสมบัน ด้วยข้อดีในด้านการเกาะตะกุยดังนี้

  • เกาะตะกุยทุกสภาพพื้นผิวได้ดีเยี่ยมทุกสถานการณ์
    ไม่ว่าคุณจะใส่ยาง A/T อย่าง BFGOODRICH ALL TERRAIN T/A KO3 ไปลุยเส้นทางไหนก็ตาม ก็จะสัมผัสได้ถึงศักยภาพการยึดเกาะที่ดีแม้ในสภาพการขับขี่ที่เลวร้ายที่สุด ด้วยไหล่ยางแบบหยักและสันสลัดโคลนที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อช่วยเสริมสมรรถนะระดับตำนานในการเกาะตะกุยเส้นทางดินโคลนของยางรุ่นก่อนหน้าอย่าง BFGOODRICH ALL TERRAIN T/A KO2 ให้ดียิ่งขึ้น

 

 

240716 bfg day7 269


ตอบแทนความไว้ใจด้วยการรับประกันที่ครอบคลุม

BFGOODRICH ALL TERRAIN T/A KO3 ไม่ได้เป็นแค่ยาง A/T ที่สืบทอดข้อดีต่างๆ มากมายมาจากยาง BFGOODRICH ALL TERRAIN T/A KO2 เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการรับประกันที่ช่วยให้มั่นสามารถขับรถกระบะและเอสยูวี 4WD ไปลุยบนเส้นทางออฟโรดหรือขับใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจหายห่วง ด้วยการรับประกันดังนี้

1. การรับประกันยางจากการผลิต 6 ปี

ยาง BFGOODRICH ALL TERRAIN T/A KO3 มอบการรับประกันที่ครอบคลุมความชำรุดและความบกพร่องจากคุณภาพและวัสดุส่วนประกอบตลอดอายุใช้งานของดอกยาง หรือ 6 ปีนับจากวันที่ซื้อ* หรือ รับประกันตลอดอายุ การใช้งานของดอกยาง** โดยถือเอากรณีที่มาถึงก่อน 

*กรณียางที่ซื้อหลัง 3 ปี นับจากวันเดือนปีที่ผลิต จะอยู่ภายใต้การรับประกัน 6 ปี นับจากวันเดือนปีที่ผลิต 

**อายุการใช้งานของดอกยางจะพิจารณาจากความลึกดอกยางเริ่มต้นจนกระทั่งยางสึกถึงจุดวัดความลึกของดอกยางซึ่งอยู่ในร่องของดอกยาง โดยมีความสูงประมาณ 1.6 มม. สำหรับยางรถยนต์ ถ้าดอกยางสึกไปจนถึงจุดวัดความลึกของดอกยางแล้ว ควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่ มิฉะนั้นอาจเกิดอันตรายได้ 

ทั้งนี้ คุณสามารถศึกษาคำแนะนำ และข้อควรระวังในการใช้งานยาง BFGoodrich ได้จากผู้แทนจำหน่าย หรือที่เบอร์ HOTLINE 02-700-3996 หรือทางเว็บไซต์ https://www.bfgoodrich.co.th/contact-us

2. การรับประกัน บาด, บวม, แตก, ตำ (ROAD HAZARD WARRANTY)

BFGOODRICH ALL TERRAIN T/A KO3 มีการรับประกันยางที่เกิดจากการ บาด บวม แตก ตำภายใน 100 วัน ซึ่งครอบคลุมสำหรับยางที่ไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นขณะใช้งานบนถนนก่อนที่จะสึกลงถึงความลึกของยาง 1.6 มม. การรับประกันครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นจากความเสี่ยงบนท้องถนนที่คุณอาจพบ เช่น หลุมบ่อ, ขยะทางถนน, ตะปู, หรือแก้ว ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของผู้ผลิตยาง

การคุ้มครอง

การรับประกัน RHZ คุ้มครองแค่ในกรณีที่ยางไม่สามารถใช้งานได้ ในกรณีต่อไปนี้:

  • เกิดจากการถูกบาดตำหรือการกระแทกอย่างรุนแรง 
  • เกิดขึ้นในสภาวะการขับขี่ทั่วไป 
  • บนถนนที่มีสภาพการใช้งานปกติ 
  • มีสาเหตุและสภาพการณ์ที่เกิดจากสิ่งที่ผู้ผลิตยางไม่สามารถควบคุมได้ 
  • ดอกยางมีความลึกที่เหลืออย่างน้อย  1.6 มม.

 

สิ่งที่ไม่คุ้มครอง

  • ยางที่เสียหายจากกระบวนการผลิต ซึ่งโดยปกติยางที่ชำรุดจากสาเหตุนี้จะมีการรับประกันการผลิตนานถึง 6 ปี 
  • ความเสียหายเพิ่มเติมที่เกิดจากไฟไหม้, การโจรกรรม, การทำลายทรัพย์สิน, อุบัติเหตุ, การใช้งานนอกถนน, การเติมลมไม่ถูกต้อง, หรือการติดตั้งไม่ถูกต้อง

 

เงื่อนไขการรับประกันยาง บาด, บวม, แตก, ตำ (ROAD HAZZRD WARRANTY)

 

  • เมื่อซื้อยาง BFGoodrich ครบ 4 เส้นและลงทะเบียนการรับประกันยางออนไลน์ (LINE: @MichelinThailand) ที่ร้านผู้แทนจำหน่าย Tyreplus/MBA/ME ที่เข้าร่วมรายการ 
  • ยางกลุ่ม UHP และ ZP สามารถลงทะเบียนและรับสิทธิ์  RHZ ได้เมื่อซื้อยางตั้งแต่ 2 เส้นขึ้นไป 
  • การรับประกันยาง BFGoodrich จากการใช้งาน นับจากวันที่ซื้อสินค้า (โดยดูจากวันที่ในใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงินจากประวัติการลงทะเบียนเท่านั้น) โดยไม่เกิน 100 วัน 
  • ยาง BFGoodrich ที่ทำเรื่องเคลม RHZ จะถูกส่งกลับมาที่บริษัท สยามมิชลิน ทุกเส้น หากบริษัทตรวจสอบพบว่า ยางเส้นที่ถูกส่งมาเคลมไม่ใช่ยางที่จัดจำหน่ายโดย บจก.สยามมิชลิน อย่างถูกต้อง บริษัทจะไม่พิจารณาจ่ายค่าชดเชยให้กับทางร้านค้าที่ส่งเคลมยางเส้นนั้นมา 
  • ร้านค้า MBA/ME เป็นผู้ทำเรื่องเคลมและส่งเอกสารสำหรับการเคลม  RHZ ให้กับลูกค้า (ผ่านระบบเคลม RHZ ของบริษัท) 
  • มูลค่าการชดเชยเฉพาะสินค้ามิชลินและบีเอฟกู๊ดริชเท่านั้น (ไม่รวมค่าบริการ ถอด-ใส่ยาง ) 

 

ขั้นตอนการกรอกใบรับประกัน RHZ

  • ลงทะเบียนได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการผ่านระบบออนไลน์ของร้านค้า Tyreplus/MBA/ME
คุณใช้เว็บเบราเซอร์ที่ไม่รองรับ
คุณใช้เว็บเบราเซอร์ที่ไม่รองรับการทำงานของเว็บไซต์นี้ ซึ่งหมายความว่าฟังก์ชันบางอย่างอาจไม่ทำงานตามที่ต้องการ และอาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติขณะเรียกดูเว็บไซต์ อัพเกรด หรือ ติดตั้งเบราว์เซอร์ต่อไปนี้เพื่อให้สามารถใช้งานเว็บไซต์นี้ได้อย่างเต็มรูปแบบ